pianoamulet.com=> พระเครื่อง ข้อมูลพระเครื่อง ประวัติพระเครื่อง -> ประวัติ พระกรุในตำนาน " พระยอดขุนพลบุเรงนอง "


ประวัติ พระกรุในตำนาน " พระยอดขุนพลบุเรงนอง "

FaceBook Twitter
จำนวนผู้เข้าชม : 940 คน

ประวัติ พระกรุในตำนาน " พระยอดขุนพลบุเรงนอง "


รายละเอียด

ประวัติ พระกรุในตำนาน " พระยอดขุนพลบุเรงนอง "

รหัส : 5119

ราคา : 0 .-

ประเภท : พระเครื่อง ข้อมูลพระเครื่อง ประวัติพระเครื่อง

เปิดตำนาน ขานเล่า พระกรุในตำนาน " พระยอดขุนพลบุเรงนอง " กษัตริย์หงสาวดี สั่งสร้าง มอบข้าราชบริพาร ขุนทหาร สร้างขวัญกำลังใจ

เมื่อกล่าวถึง ผู้ชนะสิบทิศ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชื่อของ บุเรงนอง หรือ จะเด็ด จะไม่ลอยขึ้นมาในความคิด ความทรงจำ ที่เราๆ ท่าน ๆ มีติดหัว ติดตัวกัน เพราะเป็นชื่อ หนังสือปลอมพงศาวดารประเทศเพื่อนบ้าน ของ ยาขอบ กับ ชื่อบุคคลจริง ในประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรอยุธยา เกี่ยวข้องกับ พระนเรศวรมหาราช  ในขณะเดียวกัน นามของ บุเรงนอง นั้น ยังปรากฏ อยู่ในแวดวง พระเครื่อง  ชนิดที่ว่า หากใครไม่ได้มีความนิยม หรือ ไม่คุ้นเคยกับ วัตถุมงคล จะไม่เคยได้ยินชื่อ พระยอดขุนพลบุเรงนอง อย่างแน่นอน
จุดกำเนิดเริ่มต้นตำนาน ที่มาที่ไป ของ พระกรุ นี้ เริ่มต้นจาก การเปิดเผยของ หลวงพ่ออุตตมะ แห่ง วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยท่านได้เคยอ่านพบใน " ตำราโบราณ " ที่อดีตโบราณคณาจารย์ฝ่ายพม่ารามัญ ได้จดบันทึกไว้สืบต่อกันมานานนับเป็นร้อย ๆ ปี มีการระบุถึง การสร้าง วัตถุมงคล ของ จอมกษตริย์แห่งหงสาวดี 
จากข้อมูล ตามคำบอกกล่าว ของ หลวงพ่ออุตตมะ ระบุไว้ว่า  พระยอดขุนพลบุเรงนอง ของเก่าแก่ดั้งเดิมนั้น เป็นพระพิมพ์ดินดิบผสมว่านยาวิเศษ โดยได้จำลองพุทธลักษณะจาก "พระมหามัยมุนี " ซึ่งในอดีตนั้น เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของ ยะไข่ ก่อนที่เป็นพระเครื่องที่ พระเจ้าบุเรงนอง ได้โปรดให้ พระมหาฤาษี ภูภูอ่อง ผู้เป็นพระราชครูผู้ใหญ่ ประจำพระราชสำนัก ซึ่งได้สำเร็จมหิทธิฤทธิ์ขั้นสุดยอดด้วยองค์คุณ 4 ประการ คือ ยา ยันต์ ปรอท และ ประคำ จนมีฤทธิ์ มีเดชสูงส่งอย่างยิ่งยวด

เป็นผู้จัดสร้างและปลุกเสกขึ้น เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และเหล่าทหารหาญ เพื่อใช้ในการศึกสงครามโดยทั่วไป โดยแกะพิมพ์จำลองพุทธลักษณะของ พระมหามัยมุนี พระพุทธรูปสำคัญ อันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวพม่า ที่มีอายุการสร้างเกือบ 2,000 ปี ที่เดิมประดิษฐานอยู่ที่เมือง ยะไข่ แต่ต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่ เมืองมัณฑเลย์ ภายหลังการเข้าโจมตียึด ยะไข่ ในสมัยพระเจ้าโบดอพญา หรือ พระเจ้าปดุง พระมหากษัตริย์ องค์ที่ 5 ของราชวงศ์อลองพญา  จนถึงปัจจุบัน
มีความเชื่อกันว่า พระยอดขุนพลบุเรงนอง นี้ มีพุทธคุณอันยอดเยี่ยมดีเด่นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในทางเมตตา แคล้วคลาด แต่จะเน้นไปในด้าน อิทธิฤทธิ์  คือทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ เป็นหลักใหญ่ จนกระทั่งกองทัพของ พระเจ้าบุเรงนอง สามารถปราบปรามหัวเมืองใหญ่น้อยในทุกหนแห่ง จนราบคาบอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในพงศาวดาร ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุให้พระเจ้าบุเรงนองได้รับพระสมัญญานามอีกพระนามหนึ่งว่า " ผู้ชนะสิบทิศ "
ในเวลาต่อมา โดย พระยอดขุนพลบุเรงนอง นี้ พระมหาฤาษีภูภูอ่อง ได้บรรจุไว้ที่ถ้ำแถวเมือง มะละแหม่ง ใกล้ชายแดนไทย-พม่า อยู่ 2 ถ้ำด้วยกัน คือ ถ้ำผาบง และ ถ้ำผาพะ แต่ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าถ้ำทั้งสองแห่งนี้อยู่ที่ไหนกันแน่ พระมหาฤาษีภูภูอ่อง นั้น แต่เดิมเคยบวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา มีนามว่า "ญาณรังสี" แต่ต่อมาพระญาณรังสีพิจารณาเห็นว่าการที่พระภิกษุอยู่ในป่า บางครั้งก็มีเหตุให้จำต้องล่วงอาบัติของพระพุทธองค์อยู่เนือง ๆ ก็ให้รู้สึกไม่สะดวกใจ ด้วยเกรงจะเป็นบาปเป็นกรรม พระญาณรังสีจึงลาสิกขาออกมาถือพรตเป็นฤาษี พร้อมตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล 8 ได้เป็นอย่างดีจนบรรลุอภิญญาสมาบัติ
ส่วนการที่ พระยอดขุนพลบุเรงนอง ได้ออกปรากฏต่อวงการนักสะสม พระเครื่อง นั้น เพราะความเมตตาของ หลวงพ่ออุตตมะ นั่นเอง ด้วยว่า ท่านนั้น ได้ช่วยชีวิตเด็กน้อยชาวกะเหรี่ยงไว้ ซึ่งได้ป่วยเป็นโรคร้าย จนเพื่อนบ้านต่างพากันทอดทิ้ง ไม่มีใครกล้ามาดูแล และบังเอิญท่านได้ธุดงค์มาพบเข้า ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงได้ช่วยรักษาจนหาย ทำให้เด็กชายคนนี้นับถือหลวงพ่ออุตตมะเป็นอย่างยิ่ง ต่อมา เด็กชายคนนั้น ได้กลายเป็นหัวหน้ากะเหรี่ยงคริสต์
ได้มาเล่าให้ หลวงพ่ออุตตมะ ฟังว่า ตอนนั้นหลวงพ่อมาอยู่เมืองไทยใหม่ ๆ ราวปี พ.ศ.2490 โดยประมาณ ข้อมูลจากคำบอกเล่านั้น กล่าวไว้ว่า วันหนึ่งขณะที่พวกตนถูกพวกพม่าตามไล่ล่า จนกระทั่งหนีเข้าไปหลบซ่อนในถ้ำ ๆ หนึ่ง แถวเมืองมะละแหม่ง พวกทหารพม่าได้ใช้ปืนกล และอาวุธสงครามยิงกรอกปากถ้ำ เพื่อฆ่าพวกตนให้ตายคาถ้ำ นับเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ นัด จนพวกทหารพม่าคิดว่าพวกกะเหรี่ยงที่อยู่ในถ้ำคงจะตายกันไปหมดแล้ว จึงได้ถอยทัพกลับไป ครั้นพอรุ่งเช้าพวกบรรดากะเหรี่ยงที่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ก็ออกจากที่ซ่อนในถ้ำมาสังเกตุการณ์ เห็นปลอกกระสุน และลูกปืนตกกระจายอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่มีกระสุนแม้แต่เพียงนัดเดียว ที่จะวิ่งผ่านเข้ามาถึงข้างในที่พวกตนซ่อนอยู่ได้ ก็แปลกใจ เลยคิดว่าถ้ำแห่งนี้คงต้องมีของดีของวิเศษเป็นแน่ เลยสำรวจในถ้ำดูว่ามีอะไรดี จึงได้เจอกับ กองพระขนาดย่อม ๆ ที่วางกองกันไว้อยู่ในถ้ำนั้น แต่พวกตนเป็นกะเหรี่ยงคริสต์ จึงไม่ทราบว่าคืออะไร และได้นำมาให้หลวงพ่ออุตตมะดู เมื่อได้พิจารณาดูหลวงพ่อก็ทราบทันทีว่านี่คือ พระยอดขุนพลบุเรงนอง ที่เคยได้ยินเรื่องราวมานั่นเอง จึงได้สั่งให้หัวหน้ากะเหรี่ยงคนนี้ พาคนไปช่วยกันขนพระออกมาจากถ้ำ และนี่เองคือปฐมเหตุแห่งการ แตกกรุ ของ พระยอดขุนพลบุเรงนอง

สำหรับ พระยอดขุนพลบุเรงนอง นี้ ปัจจุบันได้กลายเป็นของดีที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นที่ใฝ่ฝันสำหรับบรรดาศิษย์ใกล้ชิดของ หลวงพ่ออุตตมะ รวมทั้งผู้ที่รู้ประวัติความเป็นมา เพราะนอกจากผู้ที่รู้ความเป็นมาที่แท้จริง ต่างก็พากันหวงสุด ๆ แล้ว ด้วยระยะเวลาที่ล่วงเลยมาเนิ่นนานถึง 400 กว่าปีมาแล้ว พระบุเรงนองที่สร้างด้วยเนื้อดินผสมว่าน ได้ชำรุดแตกหักไปเป็นอันมาก จึงทำให้มีน้อยคนนักที่จะได้ครอบครอง พระยอดขุนพลบุเรงนอง ที่นับเป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องแห่งลุ่มแม่น้ำอิระวดีอย่างแท้จริง 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Website -  www.komchadluek.net


 


 




  เมื่อวันที่ : 2023-04-20 21:57:41


โทร : สนใจติดต่อโทร : 089-425-5525
Line ID : pianoamulet

คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีการชำระเงิน